วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พลั่วงับดิน


พลั่วงับดิน เป็นเครื่องมือใช้ในการนำดินขึ้นจากหลุมลึก ลักษณะของ พลั่วงับดิน มีรูปร่างคร้ายปากหนีบ มีหูยื่นยาวออกมาสองข้างไว้สำหรับ ต่อไม้ หรือ แป๊ปเหล็ก เพื่อเพิ่มขนาดความยาว ในการนำดินขึ้นจากก้นหลุม หลังจากที่ใช้ เสียม หรือ จอบ ขุดดินลงไปได้ระยะหนึ่ง ก้นหลุมก็จะลึกมากจนไม่สามารถนำ เสียม และ จอบ ลงไปขุดดิน และ นำดินกลับขึ้นมาได้ พลั่วงับดิน จึงถูกสร้างมาเพื่อทำหน้าที่นี้แทน เสียม และ จอบ


การใช้งาน 
ใช้มือสองข้างจับที่ปลาย พลั่วงับดิน แล้วหย่อนลงไปก้นหลุม โดยการกลางมือเพื่ออ้าปากถ่างออกเหมือนกรรไกร ใช้แรงจากแขนทั้งสองข้างกระทุ้งลงไปที่ก้นหลุมเพื่อให้ดินด้านข้างและดินที่ก้นหลุมจับตัวกันเป็นก้อน แล้ว ดันมือสองข้างเข้าหากันเพื่อหนีบก้อนดินขึ้นจากก้นหลุมขึ้นมาไว้ข้างๆปากหลุม

ความปลอดภัย
ก่อนใช้ควรตรวจสภาพพลั่วงับดินเสียก่อน ว่ามีส่วนไหนชำรุดเสียหายหรือไม่ พลั่วงับดิน เป็นอุปกรณ์ขุดดินและนำดินขึ้นจากก้นหลุม น้ำหนักส่วนหัวพร้อมด้ามของ พลัวงับดิน ถือว่ามีน้ำหนักมากกว่าเครื่องมืออื่นอยู่มาก เพราะหัวหนีบที่เป็นเหล็กไม่รวมด้ามก็มีน้ำหนักมากกว่าหัว อีเตอร์ พอสมควร เป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างปลอดภัย เพราะการใช้งานนั้นอยู่ ก้นหลุม และ ห่างตัวผู้ใช้มาก จึังไม่ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งานมากเท่าไร

การทำความสะอาดและดูแลรักษา
หลังจากการใช้ทุกครั้งควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ เพื่อกำจัดเศษดินเศษทรายที่ติดอยู่ตามปลายทั้งสองข้าง และ ข้อต่อปากหนีบของพลัวงับดินให้หมดเสียก่อน จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง แล้วทาน้ำมันกันสนิมที่ปลายทั้งสองและแกนกลางของปากหนีบแล้วเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อีเตอร์


อีเตอร์ เป็นเครื่องมือใช้ในการขุดดิน หัวด้านหนึ่งเป็ เหมือน จอบ หัวอีกด้านหนึ่งเป็นปลายแหลม มีน้ำหนักมากถึง 4.5ปอนด์ ไม่รวมด้าม อีเตอร์ มักนิยมใช้ในงานขุดเหมือง ขุดกระเทาะหินที่มีความแข็งมากๆ หรือใช้งัดสิ่งต่างๆแทน ชะแลง ได้ในระดับหนึ่งก็ได้ ถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้หลายรูปแบบเลยทีเดียว 

การใช้งาน 
ใช้มือทั้งสองข้างจับ ด้ามอีเตอร์ โน้มตัวไปด้านหลังพอประมาณใช้ด้านแบนของอีเตอร์ฟันลงบนตำแหน่งพื้นดินที่เราต้องการ แล้วก็งัดขึ้นเพื่อให้ดินแตกตัวออกจากกันกรณีพื้นดินไม่มีก้อนหินกั้นสามารถใช้งานได้เหมือน จอบ หากเจอพื้นดินที่มีแผ่นหินกั้นเอาไว้ก็ให้ใช้ปลายแหลมอีกฝั่งของอีเตอร์ ค่อยๆกระเทาะจนกว่าแผ่นหินนั้นจะแตกออกจากกัน

ความปลอดภัย
ก่อนใช้ควรตรวจสภาพอีเตอร์เสียก่อน ว่ามีส่วนไหนชำรุดเสียหายหรือไม่ อีเตอร์เป็นเครื่องมือที่มีความหนักและอันตรายเป็นอย่างมากหากใช้งานไม่ระมัดระวังอาจเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นเสียอวัยวะได้ เวลาใช้งานจึงไม่ควรเหวียงเล่น เพราะ อีเตอร์ เป็นเครื่องมือขุดดินที่มีสองหัวหากพลาดพลั้งหลุดมือไปโดนผู้อื่น จะเป็นอันตรายมากกว่า อุปกรณ์ขุดดินชนิดอื่นหลายเท่า ด้วยน้ำหนักที่มาก และมี หัวขุดด้านแบนและปลายแหลม จึงเป็นเครื่องมือที่ทำให้ผู้ใช้งานได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้งมากกว่าเครื่องมือชนิดอื่น 

การทำความสะอาดและดูแลรักษา
หลังจากการใช้ทุกครั้งควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ เพื่อกำจัดเศษดินเศษทรายที่ติดอยู่ตามปลายทั้งสองข้างของอีเตอร์ให้หมดเสียก่อน จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง แล้วทาน้ำมันกันสนิมที่ปลายทั้งสองข้างแล้วเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พลั่ว


พลั่ว เป็นเครื่องมือใช้ในการ ตักดิน หรือ ตักทรายที่ความละเอียดมาก หรือ เป็นก้อนที่ไม่ใหญ่นัก พลั่วมีน้ำหนักพอๆกับเสียม แต่มีใบที่กว้างและบางกว่าเสียมและจอบเล็กน้อย คมของพลั่วไม่ได้มีไว้ใช้ในการขุดหรือเจาะ แต่มีไว้ในการตักหรือโกย เศษทราย เศษดิน หรือ เศษวัชพืช ที่ได้ทำการกวาดรวมๆกันไว้เป็นกองๆเรียบร้อยแล้ว เพื่อตักไปใส่ ถุงปุ๋ย หรือ ปุ้งกี๋ หรือ ถังขยะ เพื่อเพิ่มความมรวดเร็วในการจัดเก็บและทำความสะอาด

การใช้งาน 
ใช้มือทั้งสองข้างจับด้ามพลั่วและ ปลายพลั่ว แล้วนำใบพลั่วกดลงไปที่ข้างๆกองเศษดิน หรือ เศษทราย ที่เราต้องการจะตัก แล้วโน้มตัวพร้อมกับดันแขนไปข้างหน้าพร้อมๆกัน เพื่อให้เกิดแรงส่งในการตัก เศษดิน หรือ เศษทรายต่างๆ ในปริมาณมากๆ แล้วกระดกขึ้นโดยการ

เกร็งข้อมือ และ ข้อแขนเล็กน้อยเพื่อให้เกิดแรงในการเคลื่อนย้าย เศษดิน และ เศษทราย ที่ตักไปไว้ในที่ต่างๆ


ความปลอดภัย
ก่อนใช้ควรตรวจสภาพพลั่วเสียก่อน ควรดูว่ามีส่วนไหนชำรุดเสียหายหรือไม่ ขณะปฏิบัติงานไม่ควรแขว่ง หรือ เหวี่ยง พลั่วเล่น เพราะการเหวี่ยงนั้นอาจจะทำให้พลั่วหลุดมือไปโดนเพื่อนร่วมงานได้หรือถูกข้าวของเสียหายได้ แม้ใบพลั่วจะไม่มีความแข็งแรงหรือคมเท่าเสียมและจอบแต่ก็สามารถสร้างบาดแผลที่ลึกให้เราและเพื่อนร่วมงานได้เหมือนกันถ้าใช้งานโดยประมาท

การทำความสะอาดและดูแลรักษา
หลังจากการใช้ทุกครั้งควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ เพื่อกำจัดเศษดินเศษทรายที่ติดตามปลายพลั่วให้หมดเสียก่อน จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง ทาน้ำมันกันสนิมแล้วเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

จอบ


จอบ เป็นเครื่องมือขุดเดิน ที่มีน้ำหนักปลานกลางและมีความทนทานสูง จอบใช้ในการขุดดินแข็งๆ และ ขุดหลุมให้มีขนาดกว้างและลึกได้ ลักษณะเด่นของจอบ คือ มีใบที่แบนกว้างและคม สามารถเจาะผ่านพื้นดินหรือก้อนดินที่แข็งๆให้แยกขาดออกจากกันได้โดยง่าย 

การใช้งาน 
ใช้มือทั้งสองข้างจับด้ามจอบให้มือยู่ห่างกันพอสมควร แล้วยกขึ้นเหนือหน้าผากหรือเหนือหัวเล็กน้อยแล้วฟันลงมาที่พื้นดิน ให้คมจอบเจาะลงไปยังตำแหน่งที่ต้องการ แล้วงัดเพื่อให้ดินแตกหรือฉีกขาดแล้วดึงเข้ามาหาตัว ทำซ้ำขั้นตอนเดิมแบบนี้ไปเรื่อยๆ หลุมที่ขุดก็จะกว้างและลึกตามที่เราต้องการ

ความปลอดภัย
ก่อนใช้ควรตรวจสภาพจอบเสียก่อน ว่ามีส่วนไหนชำรุดเสียหายหรือไม่ ขณะปฏิบัติงานควรจับจอบให้มั่น เพราะว่าน้ำหนักของจอบมีมากกว่าพลั่วและเสียม หากจับไม่มั่นพอ อาจจะหลุดมือไปถูกคนอื่นหรือถูกข้าวของเสียหายได้ กรณีใช้งานขณะมีผู้คนอยู่ใกล้ๆต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะจอบมีความหนักและคมมาก หากฟันโดนเท้าหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายอาจเกิดบาดแผลฉกรรจ์ถึงขั้นศูนย์เสียอวัยวะได้

การทำความสะอาดและดูแลรักษา
หลังจากการใช้ทุกครั้งควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ เพื่อกำจัดดินที่ติดตามใบจอบและคมจอบ ให้หมดเสียก่อน จากนั้นให้ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง แล้วทาน้ำมันกันสนิมแล้วเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

เสียม


เสียม เป็นเครื่องมือขุดเดิน ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในบรรดาเครื่องมือขุดดินทุกชนิด ด้วยรูปทรงที่เล็กมีน้ำหนักเบา จึงไม่กินแรงผู้ใช้ เสียมจึงมีบทบาทสำคัญในงานด้านการเกษตรทุกชนิด จึงพูดได้ว่าเสียมเป็นเครื่องมือการเกษตรที่มาคู่กับจอบ เพราะสิ่งที่จอบทำได้เสียมก็สามารถทำได้ เช่น การขุดดิน ขุดลอก เป็นต้น แต่สิ่งที่เสียมทำได้นั้นจอบไม่สามารถทำได้ก็คือการขุดหลุดที่ลึกและแคบ และ การขุดดินในที่แคบๆที่ต้องใช้ความความระมัดระวังสูง เช่น การขุดล้อมต้นไม้ขนาดเล็ก และ การขุดหน่อกล้วย เป็นต้น

การใช้งาน
ใช้มือทั้งสองข้างจับด้ามเสียมให้มือยู่ห่างกันพอสมควร แล้วกด ปลายเสียมลงไปในดิน แล้วงัดเพื่อให้ดินขาดออกจากกันแล้วดึงกลับขึ้นมา

ความปลอดภัย
ก่อนใช้ควรตรวจสภาพเสียมเสียก่อน ว่ามีส่วนไหนชำรุดเสียหายหรือไม่ ขณะปฏิบัติงานไม่ควรแขว่ง หรือ เหวี่ยง เสียมเล่น เพราะการเหวี่ยงอาจจะทำให้เสียมหลุดมือไปโดนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือ ถูกข้าวของเสียหายได้

การทำความสะอาดและดูแลรักษา
หลังจากการใช้ทุกครั้งควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ เพื่อกำจัดดินที่ติดปลายเสียมให้หมดเสียก่อน จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง ทาน้ำมันกันสนิมแล้วหาที่เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

บทความที่ได้รับความนิยม